วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

● 4 ตัวช่วย ในวันที่คุณหมดกำลังใจ ●


“อย่างน้อยก็เหลือหัวใจ ที่มันยังคงเต้นอยู่ บอกให้รู้และเตือนว่าเธอยังหายใจ หกล้มก็ลุกขึ้นยืน เจ็บปวดก็ทนเอาไว้ แม้ว่าเธอไม่เหลืออะไร เหลือเพียงหัวใจดวงนี้ก็เพียงพอแล้ว” เพลง ”หัวใจ” ของ Big Ass หรือถ้าเพลงเก่ากว่านี้ก็คงเป็น “แหล่ะในวันนี้เธอนั้นจงหยัดยืนแหล่ะลุกขึ้นอีกครั้ง ด้วยพลังในหัวใจ อย่าไปยอมแพ้ให้กับปัญหาใดๆ จงพร้อมจะอดทนก้าวไปสู่หนทางที่ฝันใฝ่ด้วยตัวเอง” เพลง “เธอผู้ไม่แพ้” ของพี่เบิรด์ ธงไชย และยังมีอีกหลายๆเพลงที่ให้กำลังใจในยามที่เราสิ้นหวังและท้อแท้ เพราะในความเป็นจริงคงไม่มีใครที่จะเข้มแข็งหรือว่าแข็งแกร่งตลอด 24 ชม. อาจจะมีช่วงที่เกิดอาการท้อใจ จากเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องครอบครัว แต่ในยามที่คุณท้อ ถ้ายิ่งคิดให้มันแย่มันก็เป็นการซ้ำเติมให้ตัวเองหมดกำลังใจ สิ่งที่ทำได้คือคิดในสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจเพิ่มขึ้น ผมมีข้อมูลมาจากหลายๆตัวอย่างว่าเวลามีปัญหาจะนึกถึงเรื่องอะไร เผื่อคุณผู้อ่านจะได้มีแรงบันดาลใจอะไรใหม่ๆที่คุณอาจจะคิดไม่ถึง * นึกถึงตัวเราเอง อย่างคนนอกมองเข้ามา เป็นคำตอบที่ได้มาเยอะมากที่สุดในการหาข้อมูล การนึกถึงตัวเราเองในที่นี้คิดได้ในหลายแง่ เช่น มองสภาพที่เห็น ให้เป็นไปตามสิ่งที่มันเป็น อย่าเข้าข้างตัวเองเกินไป ทำตัวเป็นคนนอก แล้วดูว่าถ้าเราเป็นคนนอก เราจะคิดอย่างไร และที่สำคัญที่สุด เวลามีปัญหาสิ่งที่ควรจะมีเป็นสิ่งแรกคือสติ ดั่งคำกล่าวที่ว่า สติมาปัญญาเกิด * อยู่กับคนที่เรารัก เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง ผู้มีพระคุณ เพื่อนฝูงหรือคนที่เรารัก ทุกบุคคลที่ยกตัวอย่างมา ในชีวิตของคนเราคงต้องมีซักคนที่กล่าวมาแล้วเกี่ยวข้องในชีวิตของเราและอย่างน้อยน่าจะมีซักคนที่เราคิดถึงหรือนึกถึงในช่วงเวลาที่เรารู้สึกแย่ๆกับปัญหา บางครั้งในขณะที่เราจมอยู่กับปัญหา คำตอบที่เราไม่สามารถหาได้ ทางออกดีๆหรือคำตอบของปัญหาต่างๆอาจจะมาจากคนรอบๆข้างเราก็ได้ เพียงแต่เปิดใจให้กว้างและรับฟังความคิดของคนอื่น การคุยกับเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเป็นสิ่งที่ดีในยามที่เรามีปัญหา อย่างน้อยที่สุดการได้ระบายความรู้สึกออกมาก็พอจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายว่ามีคนรับฟังเรา จะได้ไม่รู้สึกว่าโลกนี้มีแต่เราเพียงคนเดียว * ธรรมะ คนหลายๆคนจะนึกถึงธรรมะเมื่อมีปัญหาคงจะไม่ใช่สิ่งผิดที่จะคิดอย่างนั้น เพราะธรรมะเป็นเรื่องของการฝึกจิตใจให้ยอมรับความเป็นไปของโลกนี้ การฝึกนั่งสมาธิไม่ใช่เรื่องยากและยังเป็นที่นิยมในคนยุคใหม่ ถ้าคุณผู้อ่านยังไม่มีโอกาสได้ไปลองหาเวลาไปดูนะครับ อาจจะทำให้ใจที่มันร้อนอยู่ตอนนี้เย็นลงได้ แต่คงจะเป็นการดีกว่าที่เราจะเรียนรู้เรื่องของธรรมะ ตั้งแต่ตอนที่เราไม่มีปัญหาเพื่อจะเป็นเกราะป้องกันตัวเราเวลาเราต้องเผชิญกับสิ่งร้ายๆที่เข้ามาในชีวิต * ปลง คำๆเดียวง่ายๆ แต่มีความหมาย ยากที่จะทำได้ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของมนุษย์ที่จะทำ ปลงในที่นี้คือการทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ตัวเราคงจะไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือการทำจิตใจของเราให้ยอมรับสิ่งที่มันเป็นไป ปลงในที่นี้ไม่ได้หมายถึงให้หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต แต่เป็นการปลงเพื่อที่จะได้มีชีวิตอยู่และก้าวต่อไป เพื่อเจอกับสิ่งที่ดีกว่าที่จะเข้ามาในชีวิต หัวข้อที่ยกมาให้คุณผู้อ่านเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ ยังมีคำตอบอย่างอื่นอีกเช่น คิดถึงอนาคต, คิดถึงสิ่งดีๆในอดีตช่วงเวลามีความสุขกับเพื่อนในวัยเดียวกัน, เอาตัวไปเปรียบกับคนที่แย่กว่า, ไปนั่งร้านข้างถนนดูผู้คน ทำให้คิดได้ว่าชีวิตเราไม่ได้แย่ถึงขั้นสุด, ออกกำลังกายแล้วกิน (ออกกำลังกายให้เหนื่อยจะได้นอนหลับแถมยังดีต่อสุขภาพ กินของอร่อยก็เป็นการเพิ่มช่วงเวลาที่มีความสุขให้กับตัวเอง) สิ่งสำคัญเวลาที่เราหมดกำลังใจคืออย่าคิดว่าเราไม่มีใครและอย่าอยู่คนเดียว เพราะการอยู่คนเดียวอาจจะทำให้เราฟุ้งซ่านได้ แต่ถ้าคุณมีสติเพียงพอนั่นก็ถือว่าเป็นข้อยกเว้น คงจะมีบางคำตอบที่ตรงและโดนใจคุณผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น