วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ประโยชน์ของส้ม


ประโยชน์ของส้ม


ทราบหรือไม่ว่า การกินส้มให้ประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย วันนี้เรามีประโยชน์ของส้มมาฝากกันประโยชน์ของส้ม

จากรายงาน การศึกษาของหลายชาติ เรื่องการบริโภคผลไม้จำพวกมะนาว หรือส้ม ให้ประโยชน์แก่สุขภาพ สรุปได้ว่า "กินส้มวันละใบ จะช่วยผลักไสโรคมะเร็งบางชนิดให้พ้นตัวไปได้"

นักวิจัยขององค์การ วิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมเครือจักรภพของรัฐบาลออสเตรเลีย ระบุว่า การกินผลไม้พวกมะนาวหรือส้ม จะช่วยป้องกันมะเร็งที่ปาก กล่องเสียง และกระเพาะลงได้ครึ่งหนึ่ง และยิ่งกินผักผลไม้วันละ 5 มื้ออยู่เป็นประจำแล้ว ก็จะยิ่งช่วยให้ป้องกันอัมพาตได้อีกโรคถึง 19 เปอร์เซ็นต์ด้วย

ผลไม้จำพวกมะนาวหรือส้ม ช่วยป้องกันโรคของร่างกายได้เพราะคุณสมบัติเป็นตัวล้างพิษของมัน พร้อมทั้งบำรุงระบบภูมิ คุ้มโรคให้แข็งแรง ขัดขวางเนื้อร้ายไม่ให้ลุกลาม และรักษาเซลล์เนื้อร้ายให้กลับคืนดีได้อีกด้วย

รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากมีสุขภาพแข็งแรง ลองหาส้มมากินกันดีกว่า.

โอเอซิส ซีเวิลด์

โอเอซิส ซีเวิลด์
โอเอซิส ซีเวิลด์ ได้เปิดดำเนินการและจดทะเบียนในนาม บริษัท โอเอซีส ซีเวิลด์ จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2533 โดยมีจุดกำเนิดและความเป็นมาเริ่มต้นจากความสงสารและต้องการอนุรักษ์โลมา ของคุณวิชัย วัฒนพงศ์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท โอเอซิส ซีเวิลด์ จำกัด
จากการที่ได้พบว่ามีโลมาติดอวนของชาวประมง ในบางครั้ง แล้วนำมาชำแหละเนื้อขายในราคากิโลกรัมละ 20-30 บาท คุณวิชัยเกิดการรู้สึกสงสารและคิดที่จะช่วยอนุรักษ์โลมาไทยเหล่านี้จึงได้เริ่มศึกษาและทดลองช่วงปลายปี 2531 โดยขอซื้อโลมาที่ติดอวนของชาวประมงแต่ยังไม่ขายนำมา เลี้ยงในบ่อเลี้ยงกุ้งที่อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นการชั่วคราว ช่วยรักษาบาดแผลที่เกิดจากอวนและการขนส่งจนหายดี
จากการสัมผัสและดูแลอย่างใกล้ชิด พบว่า โลมาเป็นสัตว์ที่น่ารัก เลี้ยงดูง่าย เรียนรู้ได้รวดเร็วและโลมาสามารถกินอาหารจากมือผู้เลี้ยงได้ภายในระยะเวลาเพียง 20 วัน จึงได้ขยายแนวความคิดไปในรูปแบบของการขยายพันธุ์ การแสดงโชว์ ดังเช่นในต่างประเทศ
หลังจากได้ทดลองเลี้ยงโลมารุ่นแรกจำนวน 4 ตัว และได้ผลดีสามารถรักษาบาดแผลต่างๆ ที่โลมาได้รับจากทะเล และการติดอวน ควบคุมโรคและรักษาการเจ็บป่วย รวมถึงการดูแลให้อาหารที่เหมาะสมได้ จึงได้มีการรับโลมาที่บาดเจ็บและติดอวนมาเพื่อนำมารักษาและเลี้ยงดูมากขึ้น ปัจจุบันมีโลมาที่มีความสมบูรณ์เป็นพ่อพันธุ์ - แม่พันธุ์ จำนวนมากทั้งสองสายพันธุ์ คือพันธุ์ปากขวดสีชมพู ( Indo-Pacific Humpback Dolphin ) และพันธุ์หัวบาตร ( Irrawaddy Dolphin )
จากการเลี้ยงดูที่ดีในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม โอเอซีสฯ มีลูกโลมาเกิดขึ้นหลายตัว ซึ่งลูกโลมาทุกตัวอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรงเป็นปกติ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จในการเลี้ยงดู และการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ปัจจุบันมีลูกโลมาหลายตัวที่เติบโตขึ้นและสามารถแสดงโชว์ เป็นดาราเอกของโอเอซีส ซีเวิลด์ เช่น สิงห์สมุทรและพุดซ้อนในชุดสกีโลมา, น้องเอ กับการกระโดดลอดห่วงกว่า 5 ห่วง
ปัจจุบัน โอเอซีส ซีเวิลด์ เปิดการแสดงโชว์ทุกวัน ซึ่งโลมาสามารถแสดงกิจกรรมเด่นๆในการโชว์กว่า 30 รายการ นอกจากนี้ ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสกับโลมาอย่างใกล้ชิด โดยการเล่นน้ำกับโลมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้มาเยือนซึ่งเป็นคนไทย และชาวต่างชาติเป็นอย่างมากและบริษัทฯ ยังคงดำเนินการและพัฒนาต่อไป เพื่อให้โอเอซีส ซีเวิลด์ เป็นโลกของโลมา นำชื่อเสียงสู่คนไทย ด้วยความภาคภูมิใจใน "การฝึกโลมาพันธุ์ไทย โดยคนไทย รูปแบบไทย"
นอกจากนี้ โอเอซีส ซีเวิลด์ ได้ขยายโครงการในการเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ด้วยการเปิดเพื่อเป็นแหล่งความรู้ของเยาวชนโดยผ่าน Dolphin Camp ทั้งการเข้าค่ายลูกเสือ การลงฐานผจญภัย และการเข้าค่ายแก่นักท่องเที่ยวที่สนใจหรือการจัดสถานที่สำหรับประชุม รวมถึงการให้บริการแบบครบวงจรทั้งที่พัก และร้านอาหารท่องนที

ปริศนาเจ้าหญิงอนาสตาเซีย






*-*ปริศนาเจ้าหญิงอนาสตาเซีย*-*






ปริศนาเจ้าหญิงอนาสตาเซีย

แกรนด์ ดัชเชส อนาสตาเซีย แห่งรัสเซีย (Grand Duchess Anastasia Nikolaevna of Russia) ทรงเป็นพระราชธิดาลำดับที่4ของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่2และพระนางอเล็กซานดราแห่งราชวงศ์โรมานอฟ (Romanov)แห่งรัสเซีย


พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่2และพระนางอเล็คซานดราทรงมีพระโอรสและพระราชธิดารวมทั้งสิ้น4พระองค์คือเจ้าหญิงโอลกา เจ้าหญิงมาเรีย เจ้าหญิงทาเทียนา เจ้าหญิงอนาสตาเซียและเจ้าชายอเล็กเซย์
เจ้าหญิงอนาสตาเซีย ถูกสันนิษฐานว่าทรงถูกประหารพร้อมพระบิดา พระมารดาและเชื้อพระวงศ์ เมื่อวันที่ 17กรกฎาคมค.ศ.1918 เมื่อพระนางมีพระชนมายุเพียง17ชันษา โดยกองกำลังตำรวจลับบอลเชวิคแต่ได้มีการเล่าขานว่า เจ้าหญิงอนาสตาเซีย เป็นพระธิดาองค์เดียวที่ทรงรอดมาได้จากการถูกสังหารของกองตำรวจลับ บอลเชวิค เพราะขณะที่ฝ่ายบอลเชวิคยิงประหารพระองค์กระสุนได้กระทบกับเครื่องประดับ ที่เป็นอัญมณีและกระเด้งหายไป แต่พระองค์ก็ทรงแกล้งสิ้นพระชนม์

เรื่องเล่าขานนี้ถือเป็นเรื่องที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ไม่กี่ปีต่อมาหลังจากการประหารได้มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าแกรนด์ดัชเชสองค์เล็ก ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ ในที่สุด ใน ค.ศ. 1922 ก็ได้มีสตรีผู้หนึ่งนามว่า แอนนา แอนเดอร์สัน ประกาศตนว่าเป็นอนาสตาเซีย แต่ก็ได้มีการตรวจดีเอ็นเอใน ค.ศ. 1994และผลที่ได้คือ เธอมิใช่อนาสตาเซียตามที่อ้างแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ผู้สนับสนุนหลายคนปฏิเสธผลการพิสูจน์นี้ อีกผู้หนึ่งที่อ้างว่าตนคืออนาสตาเซีย คือ ยูจิเนีย สมิธ ใน ค.ศ. 1986 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มโต้เถียงเรื่องอนาสตาเซีย แต่คำกล่าวอ้างของเธอไม่สอดคล้องกับความจริง
ใน ค.ศ. 1991ได้มีการค้นพบพระศพ 2 พระศพ พระศพหนึ่งเป็นของ ซาเรวิช อเล็กเซย์ พระโอรสองค์เล็ก และอีกพระศพซึ่งได้รับการยืนยันจากนักวิชาการว่าคือพระศพของ อนาสตาเซีย ทั้ง 2 พระศพมิได้ถูกฝังร่วมกับพระบิดา พระมารดา และพระภคินี แต่ถูกเผาโดยกลุ่มคนที่ไม่ทราบแน่ชัดในป่าข้างๆ สุสาน
ใน ค.ศ. 2000คริสต์จักรนิกายรัสเซียนออร์โธดอกส์ได้ประกาศให้ พระเจ้าซาร์นิโคลัส พระนางอเล็กซานดรา แกรนด์ดัชเชสโอลกา แกรนด์ดัชเชสทาเทียนา แกรนด์ดัชเชสมาเรีย แกรนด์ดัชเชสอนาสตาเซีย และ ซาเรวิช อเล็กเซย์


ซิกมันด์ ฟรอยด์

ซิกมันด์ ฟรอยด์


Sigmund Freud

ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) จิตแพทย์ชาวออสเตรีย เชื้อสายยิว เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2399 ในจักรวรรดิออสเตรียซึ่งปัจจุบันคือ สาธารณรัฐเช็ก และเสียชีวิตวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2482 รวมอายุ 83 ปี ครอบครัวมีอาชีพขายขนสัตว์ มีฐานะปานกลาง

ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) สนใจด้านวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเวียนนาสาขาวิทยาศาสตร์ แล้วเรียนต่อสาขาแพทยศาสตร์ จากนั้นได้ไปศึกษาต่อด้านโรคทางสมองและประสาทที่กรุงปารีสกับหมอผู้เชี่ยวชาญด้านอัมพาต ที่นั่นฟรอยด์ได้ค้นพบว่าความจริงแล้วคนไข้บางรายป่วยเป็นอัมพาตเนื่องจากภาวะทางจิตใจไม่ใช่ร่างกาย หลังจากกลับมาอยู่ที่กรุงเวียนนา ฟรอยด์จึงใช้วิธีการรักษาแบบจิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) กับคนไข้ที่เป็นอัมพาต กล่าวคือให้ผู้ป่วยเล่าถึงความคับข้องใจหรือความหวาดกลัวและพยายามให้ผู้ป่วยเข้าใจเหตุการณ์นั้นๆ เพื่อลดความขัดแย้งในใจ ปรากฏว่ามีผู้ป่วยหลายรายหายจากอัมพาต

ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ได้ศึกษาวิเคราะห์จิตใจของมนุษย์ และอธิบายว่า จิตใจทำหน้าที่ควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ มี 3 ลักษณะ คือ

1. จิตรู้สำนึก (Conscious mind) หมายถึง สภาวะจิตที่รู้ตัวอยู่ ได้แก่ การแสดพฤติกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับหลักแห่งความเป็นจริง

2. จิตกึ่งสำนึก (Subconscious mind) หมายถึง สภาวะจิตที่ระลึกถึงได้ แต่มิได้แสดงออกเป็นพฤติกรรมในขณะนั้น เป็นส่วนที่รู้ตัวสามารถดึงออกมใช้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

3. จิตใต้สำนึก (Unconscious mind) หมายถึง สภาวะจิตที่ไม่อยู่ในภาวะที่รู้ตัวระลึกถึงไม่ได้ เป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ภายในจิตใจ แต่มีอิทธิพลจูงใจพฤติกรรม และการดำเนินชีวิตของคนเรามากที่สุด

เขาอธิบายว่าจิตใต้สำนึกของคนเราแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ อิด (Id) อีโก้ (Ego) และ ซุปเปอร์อีโก้ (Superego) โดย อิดจะเป็นพลังอารมณ์ความรู้สึกที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด เช่น รัก โลภ โกรธ หลง หรือเรียกว่าเป็นสัญชาตญาณดิบของคนเรานั่นเอง ซึ่งหากคนเรามีอิด เพียงอย่างเดียวก็จะไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ ในขณะที่ ซุปเปอร์อีโก้จะเป็นพลังงานที่เกิดจากการเรียนรู้ค่านิยมต่างๆ เช่น ความดี ความชั่ว มโนธรรม เป็นต้น ซึ่งเป็นพลังในส่วนดีของจิตมนุษย์ที่จะคอยหักล้างกับพลังอิด ทั้งนี้ในระหว่างความสุดขั้วของอิด และซุปเปอร์อีโก้นั้นจะมี อีโก้อยู่ระหว่างกลางคอยทำหน้าที่ควบคุมไม่ให้คนเราแสดงสัญชาตญาณดิบออกมามากเกินไป แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้คนเราแสดงออกซึ่งมโนธรรมเพียงอย่างเดียวเช่นกัน

ปลาพลวง

*-*ปลาพลวง*-*

ปลาพลวง เป็นชื่อปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Neolissocheilus stracheyi หรือ Neolissocheilus soroides เดิม (Tor stacheyi) อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) วงศ์ย่อย Cyprininae - Cyprinini จัดเป็นปลาในวงศ์ปลาตะเพียนที่มีขนาดใหญ่ ลำตัวยาว ด้านข้างแบน มีเกล็ดขนาดใหญ่ หัวเล็ก มีหนวด 2 คู่ อยู่ปากบนและมุมปาก ครีบหางเว้าเป็นแฉกลึก กระโดงหลังค่อนข้างสูงมีก้านแข็ง 1 อัน ครีบหูมีขนาดเล็ก ครีบท้องและครีบก้นมีขนาดใกล้เคียงกัน ลำตัวมีสีน้ำตาล ปนเขียว สีของปลาชนิดนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม บางแหล่งอาจจะมีสีน้ำตาลปนดำเข้ม มีแถบสีคล้ำพาดกลางลำตัวตามยาวไปใกล้โคนหาง ด้านท้องสีจาง ขนาดโดยประมาณ 60 ซ.ม. พบใหญ่สุดถึง 1.5 เมตร
อาศัยอยู่เป็นฝูงใหญ่นับ 100 ตัวขึ้นไป ตามแม่น้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำใสสะอาด เช่น บริเวณแหล่งน้ำเชิงภูเขา หรือตามลำธารน้ำตกต่าง ๆ ทั่วประเทศ
อาหารได้แก่ เมล็ดพืชต่าง ๆ เป็นปลาใหญ่ที่มักไม่มีใครนำมารับประทาน เนื่องจากทานไปแล้วเกิดอาการมึนเมา จึงเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า แต่ความจริงแล้ว ปลาชนิดนี้ได้สะสมพิษจากเมล็ดพืชที่รับประทานเข้าไปในร่างกาย เช่นเดียวกับกรณีของปลาบ้า (Leptobarbus hoevenii) มีการรวบรวมลูกปลาจากธรรมชาติเพื่อขายส่งเป็นปลาสวยงาม
ปลาพลวง มีชื่อเรียกต่างออกไปตามภาษาถิ่นเช่น ภาคเหนือเรียก "พุง" หรือ "มุง" บางพื้นที่เรียกว่า "จาด" หรือ "โพ" หรือ "พลวงหิน" เป็นต้น และมีชื่อเป็นภาษากะเหรี่ยงว่า "ยะโม"
ในประเทศไทยสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถพบปลาพลวงได้เป็นจำนวนมาก ได้แก่ น้ำตกพริ้วและน้ำตกลำนารายณ์ จ.จันทบุรี อุทยานถ้ำปลาและอุทยานถ้ำธารลอด จ.แม่ฮ่องสอน